logoAI Factory Sandbox

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้งาน AI Factory Sandbox

หน่วยงาน SCG Digital บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (“เรา”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน AI Factory Sandbox (“ท่าน”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย รวมตลอดถึงการลบและทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งช่องทางออนไลน์และช่องทางอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ดังนี้

  1. คำจำกัดความ
    1. “เรา” หมายถึง หน่วยงาน SCG Digital บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
    2. “AI Factory Sandbox” หมายถึง แพลตฟอร์มรวมเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ที่พัฒนาและให้บริการโดยเราในรูปแบบของ AI Products และ AI Services สำหรับการทดลองใช้งานภายในองค์กร SCG ซึ่งรวมถึงบริการที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ทั้งปัจจุบันและอนาคต
    3. “ท่าน” หมายถึง ผู้ใช้งาน AI Factory Sandbox และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานหรือผลลัพธ์จากระบบดังกล่าว
    4. “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนบุคคลได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    5. “ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง การเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย การโอน การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
  2. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

    1. เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของคุณก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งคุณเป็นคู่สัญญากับเรา เช่น เพื่อติดต่อคุณตามที่คุณร้องขอเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของเรา การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายและดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการเงินทีเกี่ยวข้องกับริการและผลิตภัณฑ์ของเรา และบริการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับบริการและผลิตภัณฑ์ของเราที่มีอยู่ในขณะนี้ และที่อาจมีขึ้นในอนาคต
    2. เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลอื่น
      1. เพื่อให้เราสามารถจัดการ พัฒนา และดำเนินการใด ๆ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ ซึ่งรวมถึง การบริหารจัดการและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ (รวมถึงเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน) การตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่น ๆ การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าและผู้ที่อาจเป็นลูกค้า การบำรุงรักษาและการใช้ระบบไอที และการปรับโครงสร้าง จำหน่าย หรือโอนย้ายกิจการหรือสินทรัพย์ของเรา
      2. เพื่อประโยชน์ทางด้านความปลอดภัย เช่น การพิสูจน์และยืนยันตัวตน การเข้าสู่ระบบ (Single Sign-On) เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
      3. เพื่อดำเนินการทางการตลาด และวิเคราะห์ข้อมูล (Marketing and Data Analysis) รวมถึงเพื่อประโยชน์ในการวิจัยทางการตลาด เช่น ทำแบบสอบถาม เข้าสัมภาษณ์
      4. เพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
    3. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามกฎระเบียบ แนวปฏิบัติ และ/หรือคำสั่งของผู้มีอำนาจ เช่น คำสั่งศาล คำสั่งหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ
    4. เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมโรคติดต่อ
    5. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของเรา หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้
    6. เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่เราได้รับความยินยอมจากท่าน ซึ่งเราจะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ดังกล่าวก่อนหรือในขณะที่เราขอความยินยอมจากท่านเป็นรายกรณี ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการขอความยินยอมและผลที่อาจเกิดขึ้นหากเราไม่ได้รับความยินยอมจากท่านได้ ตามที่ปรากฏในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
  3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

    เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรงจากการใช้งาน AI Factory Sandbox และในบางกรณีอาจเก็บข้อมูลจากระบบกลางขององค์กร SCG ตามความจำเป็น โดยข้อมูลที่เราเก็บมีเพียง “ข้อมูลที่จำเป็นต่อการให้บริการ” ดังนี้

    1. ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานและข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
      1. ข้อมูลจากระบบ SCG Single Sign-On
      2. ชื่อ-นามสกุล
      3. อีเมลล์องค์กร
      4. หน่วยงานและโครงสร้างองค์กรที่เกี่ยวข้อง
    2. ข้อมูลการใช้งานระบบและข้อมูลเชิงเทคนิค (Standard Logging Only)
      1. IP Address
      2. Timestamp และเวลาเข้าใช้งาน
      3. ประเภทอุปกรณ์ หรือ Browser
      4. ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าใช้งานฟังก์ชันต่างๆ (Usage Metadata)
      5. ระบบ Log ที่จำเป็นต่อการตรวจสอบเหตุผิดปกติหรือความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    3. ข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษ
      1. เราอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เช่น ข้อมูลสุขภาพทั่วไปตามที่ท่านได้ให้ไว้กับเรา (เช่น การแพ้อาหารการแพ้ยา การได้รับวัคซีน) เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรม จัดประชุม จัดรับรอง และดูแลท่านในโอกาสต่าง ๆ และข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษอื่น ๆ ตามที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกำหนด (เช่น ข้อมูลประวัติอาชญากรรม) เพื่อการรายงานต่อหน่วยงานรัฐดังกล่าว
      2. ในบางกรณี เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่านแม้ว่าเราไม่มีเจตนาที่จะประมวลผลข้อมูลนั้น เช่น กรณีที่เราจำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่านที่มีข้อมูลศาสนา โดยเราจะใช้มาตรการหรือขอให้ท่านดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงการประมวลผลข้อมูลชนิดพิเศษนี้โดยไม่จำเป็นเช่น การปิดทับข้อมูล (redact)
  4. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
    1. ในกรณีที่เราเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับเราได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
    2. หากท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับเราหรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้เราไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้
    3. ท่านสามารถถอนความยินยอมได้โดยตรงตามวิธีการที่ระบุไว้ในช่องทางที่ท่านให้ความยินยอมไว้ หรือแจ้งการถอนความยินยอมมาที่ข้อมูลการติดต่อที่ระบุในข้างท้ายของนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
    4. หากท่านเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และต้องการให้ความยินยอมกับเราในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านต้องดำเนินการเพื่อให้ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ก่อนที่จะให้ความยินยอมกับเราด้วย
    5. หากท่านให้ความยินยอมกับเราในการประมวลผลข้อมูลของบุคคลอื่น ท่านต้องรับรองว่าท่านมีอำนาจในการให้ความยินยอมดังกล่าวแทนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ตามกฎหมายในขณะที่ท่านให้ความยินยอมกับเรา
  5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
    1. เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน จะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)
    2. เราจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
    3. กรณีที่เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอมและเราดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดี เราจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอมเพื่อให้เราสามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้
  6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
    1. เราอาจเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับ
      1. บริษัทในเอสซีจี และ
      2. บุคคลและนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บริษัทในเอสซีจี (“บุคคลอื่น”) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น ผู้แทนจำหน่ายของเรา ผู้ให้บริการด้านการขนส่ง (เช่น ไปรษณีย์) ผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการและทำหน้าที่ภายใต้การควบคุมของเรา เช่น ช่วยในการประมวลผลการทำรายการ ส่งโฆษณาสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของเรา หรือให้ความช่วยเหลือและบริการแก่คุณ ผู้ให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมและการเงิน (เช่น ธนาคาร บริษัทรับชำระเงินแทน) ผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยี (เช่น ระบบคลาวด์ ระบบบล็อคเชน บริการส่ง SMS บริการ data analytics) ผู้ให้บริการจัดทำโปรแกรมและระบบไอทีต่าง ๆ ผู้ตรวจสอบ บริษัทประกัน ที่ปรึกษา หน่วยงานของรัฐ (เช่น กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) และบุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
    2. บุคคลที่เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ตามข้อ 6.1 อาจมีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่แยกต่างหากจากเรา โดยท่านสามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวดังกล่าวได้ตามที่บุคคลนั้น ๆ ประกาศ
    3. กรณีที่มีการปรับโครงสร้าง จำหน่าย หรือโอนย้ายกิจการหรือสินทรัพย์ของเรา เราอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับผู้รับโอนหรือซื้อกิจการ และ/หรือที่ปรึกษาของผู้ซื้อกิจการ อย่างไรก็ดี เราจะรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเต็มความสามารถ รวมถึงกำหนดให้ผู้ซื้อกิจการ และ/หรือ ที่ปรึกษาของผู้ซื้อกิจการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
    4. เราจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
  7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
    1. เราอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเอสซีจีหรือบุคคลอื่นในต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างเรากับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่านหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
    2. เราอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศและอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ แต่เราจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้ผู้ให้บริการเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
    3. ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เราจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการคุ้มครองที่เหมาะสมเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามกฎหมาย รวมถึงมีมาตรการเยียวยาที่มีประสิทธิภาพตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ เราจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
  8. มาตรการการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
    1. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญ เราได้นำมาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
    2. เราจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ทั้งมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เช่น การควบคุมการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (access control) การบริหารจัดการการเข้าถึงของผู้ใช้งาน (user access management) นอกจากนี้ เราได้จัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
    3. ในกรณีที่เราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน เราจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษดังกล่าว
  9. สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    1. ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สรุปดังนี้
      1. ถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับเราในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
      2. ขอดูและคัดลอกข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
      3. ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำหนดไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
      4. คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน
      5. ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ (anonymization)
      6. ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
      7. แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
      8. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เราหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของเราหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    2. เราจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านโดยเร็วภายใน 30 วันนับแต่วันที่เราได้รับคำร้องขอดังกล่าว และสิทธิตามที่กล่าวมาข้างต้น เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
    3. ท่านสามารถใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับข้อมูลที่เราประมวลผลภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้โดยส่งคำขอมาที่ข้อมูลการติดต่อที่ระบุในข้างท้ายของนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
  10. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    1. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ คือ หน่วยงาน SCG Digital บริษัทปูนซิเมนต์ไทยจำกัด (มหาชน)
    2. สถานที่ติดต่อของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล คือ 1 ถนนปูนซิเมนต์ไทย แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
    3. ท่านสามารถติดต่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้ที่ e-mail: inquiry.digital@scg.com หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-586-4444

กรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เราจะประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่ผ่านทางเว็บไซต์ของเรา ซึ่งท่านควรเข้ามาตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว